Sound of the city สำเนียงแห่งเมือง


การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อผู้ประกอบการและนักสร้างสรรค์  สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA จึงดำเนินโครงการ  “CEA VACCINE ร่วมสร้างสรรค์...ภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจไทย” เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบอย่างเร่งด่วนให้กับกลุ่มนักสร้างสรรค์ในสาขากราฟิก ภาพวาด ภาพถ่าย นักออกแบบ และนักดนตรี  รวม 373 ราย ในช่วงเดือนมีนาคม – เดือนสิงหาคม 2563 ซึ่ง “Sound of the city สำเนียงแห่งเมือง”  เป็นหนึ่งในโครงการเพื่อสนับสนุนให้นักดนตรียังสามารถสร้างสรรค์ผลงานจนกลายมาเป็น 100 บทเพลง ที่สะท้อนเรื่องราวและอัตลักษณ์ท้องถิ่นทั่วประเทศ 
 
Sound of the city เปิดรับสมัครนักร้อง นักแต่งเพลง และนักดนตรี ให้เข้าร่วมโครงการ ภายใต้โจทย์การสะท้อนความเป็นเมืองหรือท้องถิ่นที่อาศัยหรือได้รับแรงบันดาลใจ โดยไม่จำกัดรูปแบบหรือเทคนิค จึงทำให้เกิดผลงานที่มีการสร้างสรรค์จากหลายมุมมอง และเปิดโอกาสให้นักดนตรีได้แสดงผลงานผ่านช่องทางการสื่อสารทางออนไลน์และการแสดงในพื้นที่ ช่วยผลักดันอุตสาหกรรมดนตรีบางส่วนของไทยยังคงเดินหน้าต่อไป 


แว่ว 100 สำเนียง 7 ย่านทั่วไทย


กรุงเทพฯ และปริมณฑล 
แม้กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะเป็นพื้นที่ที่เล็กที่สุดในบรรดา 6 ย่านทั่วไทย แต่เมืองหลวงของเราก็เป็น หม้อหลอม (Melting Pot) ที่เป็นแหล่งรวมความหลากหลายของคนจากทุกทิศทั่วประเทศ ทำให้ศิลปินสามารถสะท้อนออกมาเป็นสำเนียงของแต่ละย่านได้อย่างเป็นเอกลักษณ์และเต็มไปด้วยสีสัน 
 
ซาวด์เพลงของย่านศูนย์กลางธุรกิจ เช่น ราชประสงค์ พัฒพงษ์ และ สีลม จะเป็นจังหวะสะท้อนชีพจรคนกรุงที่เคลื่อนไหวและขับเคลื่อนเมืองอย่างรวดเร็ว ต่างจากเสียงของปอดแห่งกรุงเทพฯ อย่าง บางกะเจ้า ที่จะทำให้จินตนาการถึงภาพของป่ากลางเมืองได้ทันที ขณะที่สำเนียงของท่าเรือ ก็ยังมีความแตกต่างกันระหว่าง ท่าน้ำสาทร ที่อยู่กลางกรุงและเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ กับท่าน้ำนนท์ ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของผู้โดยสารและพ่อค้าแม่ค้าสองข้างทาง ขณะที่เมือง นครปฐม จะให้อารมณ์เพลงลูกกรุงในเสียงร้องแบบลูกทุ่งของคู่รัก

รับฟังและอ่านรายละเอียดของศิลปิน กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้ที่ YouTube Playlist: SOUND OF THE CITY - Bangkok


เจริญกรุง
Sound of Charoenkrung คือโปรเจกต์พิเศษในฐานะย่านที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ CEA และเป็นย่านสร้างสรรค์ต้นแบบของกรุงเทพฯ รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นศูนย์รวมศิลปะและงานสร้างสรรค์ในระดับแนวหน้าของประเทศ ศิลปิน 25 คน ได้ร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวของสถานที่และแลนด์มาร์กต่าง ๆ เช่น วงเวียน 22, อาคารไปรษณีย์กลาง, โรงภาพยนตร์ปรินซ์, สำเพ็ง, บรรยากาศของเซียงกงในย่านตลาดน้อย, เยาวราช, ถนนทรงวาด, ซอยนานา และอีกมากมาย ผ่านบทเพลงที่ฟังแล้วอาจรู้สึกถึงประสบการณ์ร่วม และเพลงบรรเลงที่ทำให้จินตนาการถึงบรรยากาศคึกคักของเจริญกรุงที่ต้องมาเห็นด้วยตาของตัวเอง

รับฟังและอ่านรายละเอียดของศิลปิน เจริญกรุง ได้ที่ YouTube Playlist: SOUND OF THE CITY - Charoenkrung


ภาคกลาง 
ภาคกลางเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ดั่งคำกล่าวที่ว่าไว้แต่โบราณกาล ศิลปินได้เลือกถ่ายทอดเสียงแห่งเมืองต่าง ๆ โดยใช้ดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์อย่างดนตรีไทยเดิม ผสมกับเสียงธรรมชาติ ทั้งเสียงน้ำ เสียงลม เพื่อนำเสนอความงดงามและความอุดมสมบูรณ์ของเมืองอย่าง สุโขทัย และใช้จังหวะหนักหน่วงของเพลงร็อกสะท้อนถึงช่วงรบของราชธานีเก่าอย่าง อยุธยา

นอกจากนี้ ยังรวมถึงที่ชุมชนริมน้ำชื่อดังอย่าง อัมพวา ซึ่งศิลปินผสมผสานดนตรีไทยกับเสียงเปียโน และเพิ่มความร่วมสมัยด้วยซินธิไซเซอร์ แสดงถึงความเปลี่ยนแปลงในย่านพร้อมบรรยากาศที่คึกคัก เหมือนกับกำลังเลือกชมสินค้าในตลาดน้ำ 

รับฟังและอ่านรายละเอียดของศิลปิน ภาคกลาง ได้ที่ YouTube Playlist: SOUND OF THE CITY - Central Region
 

ภาคเหนือ 

ภาคเหนือเป็นภาคที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมโดดเด่น มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งความเป็นเมืองที่คึกคักตลอดเวลา และความเป็นป่าเขาที่มีความสงบ ร่มเย็น ศิลปินได้หยิบยกสถานที่สำคัญอย่าง ดอยตุง ที่ให้ความรู้สึกถึงความผ่อนคลาย เอิบอิ่มไปกับความงามของดอกไม้นานาพรรณ โดยใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้านอย่างปี่น้ำเต้าและพิณเพียะ มาผสมผสาน และเล่าถึงเมือง ลำปาง ผ่านดนตรีพื้นบ้านและดนตรีตะวันตก โดยสอดแทรกด้วยเสียงรถม้าและเสียงนาฬิกาที่ทำให้นึกถึงห้าแยกกลางเมือง 
 
แต่ใช่ว่าท่วงทำนองของภาคเหนือจะเป็นสไตล์คล้ายกันทั้งหมด ย่านนิมมานฯ คือ ย่านเศรษฐกิจหลักที่คึกคักตลอดเวลาของเชียงใหม่  ศิลปินจึงสร้างเสียงที่มีจังหวะสนุกสนานด้วยดนตรีเร็กเก้ สกา ผสมผสานร็อกแอนด์โรล โดยแฝงความหมายที่ต้องการสื่อในฐานะคนท้องถิ่นด้วย ขณะที่ ดอยสุเทพ จะถูกสะท้อนผ่านสไตล์เพลงการาจร็อก ที่ให้บรรยากาศรั้วมหาวิทยาลัยซึ่งเต็มไปด้วยพลังของวัยรุ่น
 
รับฟังและอ่านรายละเอียดของศิลปิน ภาคเหนือ ได้ที่ YouTube Playlist: SOUND OF THE CITY - Northern Region


ภาคตะวันออก 
 
ฝั่งอ่าวไทยนั้นมีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวไม่แพ้ที่ไหน ศิลปินได้เลือก พัทยา เมืองชายฝั่งทะเลชื่อดัง และ บางแสน ซึ่งเป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมาอย่างยาวนานของคนไทย มาถ่ายทอดเป็นบทเพลงที่สนุกสนานเร้าใจ ด้วยแนวเพลงฟังก์ นูดิสโก้ EDM ผสมผสานด้วยเสียงสังเคราะห์ ให้ผู้ฟังได้โยกย้ายไปกับกลิ่นอายของดนตรี และสัมผัสได้ถึงสีสันแห่งเมืองเหล่านี้ ศิลปินยังพาเราไป ฉะเชิงเทรา โดยนำเสียงระฆังมาสะท้อนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง วัดหลวงพ่อโสธร ผสานกับเสียงอิเล็กทรอนิกส์ในจังหวะผ่อนคลายให้ความรู้สึกร่วมสมัย 

รับฟังและอ่านรายละเอียดของศิลปิน ภาคตะวันออก ได้ที่ YouTube Playlist: SOUND OF THE CITY - Eastern Region


ภาคอีสาน 
 
อีสาน เป็นดินแดนที่โดดเด่นไปด้วยประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต ตลอดจนมีดนตรีและการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ ศิลปินได้นำกลิ่นอายการแสดงพื้นบ้านอย่าง เซิ้ง หมอลำ และเครื่องดนตรีอีสานอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น แคน โหวด พิณ มาผสานกับดนตรียุคใหม่เพื่อถ่ายทอดเป็นเสียงแห่งเมืองต่าง ๆ เช่น ร้อยเอ็ด ขอนแก่น และนครราชสีมา 
 
ศิลปินยังพูดถึง พื้นที่ราบสูง อันเป็นเอกลักษณ์ของดินแดนอีสานโดยรวม ผ่านเครื่องเป่าและดนตรีพื้นบ้านที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็นนักสู้ของคนในภาคนี้ ขณะที่อำเภอ เลิงนกทา เป็นอีกตัวอย่างที่ศิลปินใช้ดนตรีแนว Isan experimental มาขับขานเป็นเสียงแห่งย่านได้อย่างคึกคัก และยังมีอีกหลากหลายเสียงของย่านต่าง ๆ ที่ศิลปินนำเสนอด้วยสไตล์ดนตรีอีสาน และดนตรีร่วมสมัยได้อย่างโดดเด่นและมีเอกลักษณ์
 
รับฟังและอ่านรายละเอียดของศิลปิน ภาคอีสาน ได้ที่ YouTube Playlist: SOUND OF THE CITY - Northeastern Region
 

ภาคใต้  

เอกลักษณ์ของภาคใต้ คือทะเลที่สวยงามทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ตลอดจนดนตรีพื้นเมืองที่มีจังหวะสนุกสนาน หรือภาษาถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ศิลปินได้หยิบยก เกาะสมุย มาถ่ายทอดในสไตล์สนุกสนานด้วยดนตรีฟังก์ร็อก โดยมีเสียงคลื่นซัดชายฝั่งมาประกอบให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนได้ไปสัมผัสที่จริง ขณะที่ สงขลา เมืองสองเล ที่มีธรรมชาติสวยงามและวัฒนธรรมหลากหลาย ศิลปินใช้การแร็ปเป็นภาษาใต้ พร้อมดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ แทร็ป และดนตรีพื้นบ้านที่ให้กลิ่นอายของมโนราห์ มาผสมผสานอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังพาไป หัวหิน ด้วยดนตรีแนวแอมเบียนต์ พร้อมเสียงซินธิไซเซอร์ที่ทำให้เห็นภาพของคลื่นและรถไฟในเมืองตากอากาศแห่งนี้ 

รับฟังและอ่านรายละเอียดของศิลปิน ภาคใต้ ได้ที่ YouTube Playlist: SOUND OF THE CITY - Southern Region
 
ปัจจุบันเพลงทั้งหมดถูกนำขึ้นระบบของแพลตฟอร์ม Streaming Music แล้ว อาทิ Spotify, Apple Music และ Tidal เป็นต้น เพื่อรองรับกลุ่มผู้ฟังดนตรีได้กว้างและหลากหลายมากยิ่งขึ้น
 
ตัวอย่าง Sound of the City Highlight ได้แก่
บางกระเจ้า – Arm Wainiya   https://youtu.be/P2uyLuTV2oI
PATPONG – DCNXTR   https://youtu.be/p1w4hfa6dFk
Central Pier – Alexander Demario   https://youtu.be/oR1KNNcQbUs
Along the Way ในเวียง - สายกลาง (ภาคเหนือ)   https://youtu.be/NECFZy3N1is
MOUNT ALLURE - Thalalenq (ภาคกลาง)   https://youtu.be/YToEcAm9RIg
FUNKY OF PATTAYA - Underrated (ภาคตะวันออก)   https://youtu.be/73WV6yKrryM
ร้อยเอ็ด - TONTRAKUL (ภาคอีสาน)   https://youtu.be/LJPrecVP940
หัวหิน - Perfectly Casual (ภาคใต้)   https://youtu.be/glA6celKIr0
และเพลงไฮไลท์อื่น ๆ 25 บทเพลงจาก 7 ย่านต่างสำเนียงทั่วไทย  https://www.youtube.com/playlist

Project Update

29.11.2563

Bangkok Music City – BMC 2020

The Creative Economy Agency (Public Organization) or CEA organized an exhibition at Bangkok Music City 2020 between 28 and 29 November 2020 at Glowfish Sathorn, Sathorn Thani Building 2, featuring eight artists from "Sound of the City" in musical performances.

In addition, a CEA executive spoke at the ENT-TECH Conference on the topic of “The Future of Thai Music Industry”. The speakers in the event are from three fields in the Thai music industry: Kawin Theppatiphat, Director of Creative Industry Development, CEA; Yuttana “Pa Ted” Boonaom, GMM GRAMMY; and Dr. Narong Prangcharoen, Dean of the College of Music, Mahidol University.

22.11.2563

Cat Expo 7

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ได้ร่วมจัดนิทรรศการ “Sound of the City สำเนียงแห่งเมือง” ในเทศกาลดนตรีประจำปีโดย Cat Radio (แคท เรดิโอ) ณ สวนสนุก Wonder World รามอินทรา ระหว่างวันที่ 21 – 22 พฤศจิกายน 2563 

ในงานนี้ CEA ได้จัดกิจกรรมเพื่อรับแผ่นพับเพลย์ลิสต์ในรูปแบบตลับเทป (Cassette Tape) ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินในโครงการ จำนวน  100 บทเพลง พร้อม QR Code ที่นำไปสู่แพลตฟอร์มฟังเพลงและรับชมวิดีโอออนไลน์ทาง YouTube.com โดยปัจจุบัน เพลงทั้งหมดถูกนำขึ้นระบบของแพลตฟอร์ม Streaming Music หลายแห่งแล้ว อาทิ Spotify, Apple Music และ Tidal เป็นต้น เพื่อรองรับกลุ่มผู้ฟังดนตรีได้กว้างและหลากหลายมากยิ่งขึ้น