Creative Economy Agency

สัมผัสลมหนาวพร้อมเดินเสพงานศิลป์ในช่วงส่งท้ายปีที่งานเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2568 (Chiang Mai Design Week 2025) จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ – 14 ธันวาคม 2568 ณ ย่านกลางเวียง, ช้างม่อย-ท่าแพ และสันป่าข่อย

ภายในงานไม่ได้มีเพียงการจัดแสดงนิทรรศการหรือการแสดงผลงานสร้างสรรค์ให้ได้ชมเท่านั้น หากแต่เต็มไปด้วย “จิตวิญญาณท้องถิ่นภาคเหนือ” ที่ทำให้คำว่า “LOCAL PLUS” ถูกสื่อสารออกมาอย่างเป็นรูปธรรมและทรงพลังด้วยความคิดและผลงานของนักสร้างสรรค์ที่ถักทอออกมาในหลากหลายมิติไม่ว่าจะผ่านมิติสัมผัสที่ปลายจมูกกับ “กลิ่นหอม” สะท้อนมุมมองประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และพืชพรรณท้องถิ่น  พลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Wellness สู่มิติการรับรู้และเข้าใจถึง “บ้านในฝัน” บ้านที่ออกแบบเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ ตลอดจนผ่านพื้นที่แสดงผลงานและความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างประเทศ ไปจนถึงมิติของการฟังที่จะพาให้ได้ขยับร่างกายไปกับเทศกาลดนตรีสุดพิเศษที่รวมศิลปินจากทั่วภูมิภาคเหนือและต่างประเทศไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสร้างสรรค์อีกมากมายมากกว่า 150 โปรแกรมตลอดเทศกาลฯ แสดงให้เห็นถึง “พื้นที่ทดลอง” ให้ผู้คนจากหลากหลายสาขาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มาร่วมกันตั้งคำถาม แสดงศักยภาพ และมองเห็นโอกาสใหม่จากทุนทางวัฒนธรรมให้เติบโตและได้รับการต่อยอดอย่างไร้ขีดจำกัด

กลิ่นในฐานะภาษาท้องถิ่น:  Make Scents, Make Sense “สร้างกลิ่น สร้างถิ่น สร้างอนาคต”

หนึ่งในไฮไลต์ของปีนี้คือ Make Scents, Make Sense “สร้างกลิ่น สร้างถิ่น สร้างอนาคต” นิทรรศการที่จะทำให้กลิ่นหอมลอยฟุ้งทั่วบรรยากาศอันหนาวเย็น โดย CEA สำนักภาคเหนือ ร่วมกับสมาคมสุคนธกรไทย (Thai Perfumers) และห้องปฏิบัติการสกัดน้ำหอมสยาม LOSIam (Laboratoire Olfactif du Siam) สร้างสรรค์นิทรรศการที่ชวนสัมผัส“กลิ่นหอม” ในฐานะทุนสร้างสรรค์ของไทยที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Wellness และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้วยพลังแห่งกลิ่นหอมจากธรรมชาติ ที่จะถูกนำเสนอผ่าน 3 เรื่องราวได้แก่ 

1. Make Scents: เปิดโลกของศาสตร์และศิลป์แห่ง “กลิ่น” ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อสำรวจประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และอุตสาหกรรมน้ำหอม ที่หลอมรวมวัฒนธรรมและอัตลักษณ์จากทั่วโลก
2. Make Sense: นำ “กลิ่น” กลับสู่รากเหง้า ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อถ่ายทอดบทบาทของกลิ่นผ่านพืชพรรณท้องถิ่นจากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ในฐานะเครื่องมือสร้างมูลค่าใหม่ให้แก่เกษตรกรไทย 
3. Make Scents, Make Sense: เชื่อมโยงศิลปะ วิทยาศาสตร์ และจินตนาการเข้าด้วยกัน แสดงให้เห็นว่า “กลิ่น” คือพลังแห่งวัฒนธรรมที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคตได้อย่างแท้จริง

สปอตไลต์: พื้นที่แสดงผลงานนานาชาติและความร่วมมือด้านวัฒนธรรม

ปีนี้เทศกาลฯ เปิดพื้นที่นานาชาติแสดงความร่วมมือผ่านหลายประเทศทั่วเอเชียและยุโรป ถ่ายทอดพลังสร้างสรรค์จากมุมมองหลากวัฒนธรรมและผลักดันให้เชียงใหม่เป็นเวทีเชื่อมต่อเครือข่าย Creative Economy ระดับภูมิภาค โดยนำเสนอผลงานที่น่าสนใจมากมาย เช่น 

1. Taiหวาน Beats: Music Scene Exhibition
สถานที่ หอกลางเวียง 
เวลา 10.00 – 22.00 น.
นิทรรศการความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างไทย–ไต้หวัน ที่ใช้ “ดนตรี” เป็นแกนกลางในการนำเสนอผลงานออกแบบร่วมสมัย พร้อมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนอุตสาหกรรมดนตรีระหว่างสองประเทศ โดดเด่นด้วยองค์ประกอบแบบ Interactive และ Immersive สร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมอย่างลึกซึ้ง

2. Yumeie Dream House Project 
สถานที่ หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ 
เวลา 10.00 - 22.00 น.
นิทรรศการความร่วมมือระหว่าง TCDC Chiang Mai และ Design and Creative Center Kobe (KIITO) ประเทศญี่ปุ่น นำเสนอผลงานจาก Workshop: Yumeie Dream House Project นำเสนอกระบวนการเรียนรู้ที่เยาวชนจะได้เรียนรู้ออกแบบบ้านสำหรับ “New Norm” พร้อมรับมือกับปัญหาภัยพิบัติ ผ่านกระบวนการ Head Hand Heart (ความคิด ทักษะ และทัศนคติ) พร้อมชม mini Exhibition จาก KIITO

3. LOCAL PLUS Exhibition
สถานที่ เอส.วี. เฟอร์นิเจอร์
เวลา 10.00 - 22.00 น. 
นิทรรศการที่รวมพลังนักออกแบบรุ่นใหม่และช่างฝีมือ กว่า 20 แบรนด์ ถ่ายทอดกระบวนการออกแบบที่ละเอียดละไม โดยงานทุกชิ้นเปี่ยมด้วยอัตลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับมุมมองร่วมสมัย เพื่อให้สอดรับกับวิถีชีวิตของผู้คนและตลาดยุคใหม่
 
4. NEHHDC | North East India (Asthalakshmi) Pavilion
สถานที่ หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ 
เวลา 10.00 - 22.00 น.
องค์กรพัฒนางานหัตถกรรมและผ้าทอมือแห่งภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ NEHHDC จากประเทศอินเดีย นำช่างฝีมือและผู้ประกอบการ  โดยนำเสนอผลงานหัตถกรรมหลากหลายประเภท ตั้งแต่งานผ้าทอ งานจักสาน เครื่องประดับทำมือ การแสดงผลงานผ้าไหม Eri และผลงานการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ เพื่อทำให้มรดกวัฒนธรรมและงานคราฟต์ของอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่รู้จักในเวทีนานาชาติ 

5.เส้นทางใหม่หางโจว The New Hangzhou Line
สถานที่ หอกลางเวียง
เวลา 10.00 - 22.00 น. 
นิทรรศการเส้นทางใหม่หางโจว ประเทศจีน เส้นทางแห่งจินตนาการเชื่อมงานหัตถกรรมและการออกแบบร่วมสมัยไว้ด้วยกัน ภายใต้แนวคิด The New Hangzhou Line มาพร้อมกับเวิร์กช็อปสุดพิเศษที่จะพาสำรวจโลกของงานฝีมือแบบหางโจวผสานมรดกวัฒนธรรมสู่การถักทอความคิดสร้างสรรค์สู่อนาคต

6. นิทรรศการศิลปะไฟนีออนโดยสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย
สถานที่ ห่าน สตูดิโอ
เวลา 10.00 - 22.00 น. 
Fractured Galaxy โดย ไจลส์ ไรเดอร์ ศิลปินผู้หลงใหลและผูกพันธ์กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนาน  การจัดแสดงจะนำเสนอผลงานผ่านศิลปะจากแสงไฟนีออน วัสดุ และแสงสะท้อนในฐานะเครื่องมือเล่าบริบทสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมไทยที่ได้รับอิทธิพลจากความเป็นสมัยใหม่ ตลอดจนบอกเล่าพื้นที่แห่งประสบการณ์และความผูกพันธ์ระหว่างศิลปินต่อประเทศในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้

7. Taitung in Ease: Crafting Horizons
สถานที่ เอส.วี. เฟอร์นิเจอร์
เวลา 10.00 - 22.00 น. 
งานหัตถกรรมร่วมสมัย ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมที่ยังมีชีวิตและสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับผืนดินชายฝั่งตะวันออกของไต้หวัน ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันระหว่างช่างฝีมือและนักออกแบบ นอกจากนี้ยังมีงานจักสานหวายของช่างทำมือจากชุมชนพื้นเมืองที่ล้วนเปี่ยมไปด้วยความทรงจำ

8. CRAFTed of Taste
สถานที่ หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ 
เวลา 10.00 – 22.00 น.
นิทรรศการที่เฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างประเทศไทยและฝรั่งเศสผ่านการร่วมมือกันรังสรรค์ผลงานเซรามกจากศิลปินทั้งสองประเทศ  โดยนำเสนอผลงานที่ผสมผสานศิลปะและวัฒนธรรมอาหารเหนือผ่านมุมมองร่วมสมัย  นิทรรศการมาพร้อมกับกิจกรรมเสวนา  เวิร์กช็อป และงานเลี้ยงอาหารค่ำสุดพิเศษ “On y mange!” สะท้อนความร่วมมืออันแน่นแฟ้นของสองประเทศในพื้นที่งานสร้างสรรค์

9. Ceramic Sensory Toys Exhibition
สถานที่ หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่
เวลา 10.00 – 22.00 น.
โชว์เคส “ของเล่นเซรามิก” เปลี่ยนงานเซรามิกให้กลายเป็นประสบการณ์เล่นที่เชื่อมโยงผู้คนเข้ากับวัสดุ ศิลปะ และความรู้สึกเล็ก ๆ ที่เรียบง่ายแต่มีความหมาย ให้ทุกวัยได้ทดลองสัมผัส กลิ้ง เขย่า เป่า ร่วมกัน 

10. The Urban Symphony
สถานที่ หอกลางเวียง
เวลา 18.00 - 22.00 น. 
การจัดแสดง Projection Mapping ที่นำเสียงจริงจากเมือง ทั้งเสียงรถไฟฟ้า ถนน เครื่องจักร ไปจนถึงเสียงนกร้อง ฟ้าผ่า น้ำไหล หรือเสียงผู้คน มาแปลงเป็นคอร์ดและเมโลดี้ของเมือง ที่ถูกฉายผ่าน Projection Mapping ทำให้ “ ได้ยินเสียง” และ “ได้เห็นภาพ” ไปพร้อมกัน

LOCAL PLUS: จากทุนท้องถิ่นสู่อนาคตของเมือง

นี่คือบทบาทของเทศกาลออกแบบเชียงใหม่ในวันนี้สถานที่ที่ไม่ใช่แค่เทศกาลซึ่งรวบรวมผลงานสร้างสรรค์มาจัดแสดง แต่คือพื้นที่ที่ช่วยให้ผู้คนเชียงใหม่ และภูมิภาคเหนืออื่น ๆ มาร่วมทดลอง และออกแบบอนาคตร่วมกัน เพื่อก้าวสู่อนาคตที่เติบโตจากทุนท้องถิ่นที่เรามี และขยายต่อไปอย่างไม่รู้จบด้วยพลังของคำว่า “PLUS”

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Website: www.chiangmaidesignweek.com, Facebook: Chiang Mai Design Week, Instagram: Chiang Mai Design Week และ TikTok: Chiang Mai Design Week 

Posted in news on ธ.ค. 09, 2025