Research & Report

เวียดนามเร่งเครื่องนโยบายปลอดพลาสติก ดันเศรษฐกิจสีเขียว-ท่องเที่ยวยั่งยืน

โดยธรรมชาติ “ขยะ” มักถูกมองว่าเป็นของเหลือทิ้ง แต่ในเวียดนามวันนี้ ขยะพลาสติกกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปครั้งสำคัญ ทั้งในมิติของการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการบริโภคอย่างสร้างสรรค์ ประเทศที่เคยติดอันดับต้น ๆ ของเอเชียด้านการปล่อยขยะทะเล กำลังเร่งเดินหน้าเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่ง “การท่องเที่ยวปลอดพลาสติก” ด้วยนโยบายที่ชัดเจนและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน

เวียดนามปล่อยขยะพลาสติกกว่า 3 ล้านตันต่อปี ตัวเลขนี้กำลังถูกท้าทายด้วยนโยบาย “ปลอดพลาสติก” และการท่องเที่ยวยั่งยืน
Photo Credit: https://vietnamnews.vn/society/1272494/viet-nam-discards-over-three-million-tonnes-of-plastic-waste-a-year.html

ผลสำรวจจาก Booking.com ในปี 2025 ระบุว่า 41% ของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามให้ความสำคัญกับการลดขยะพลาสติกระหว่างการเดินทาง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากปี 2024 ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ นักท่องเที่ยวเวียดนามกว่า 90% แสดงความตั้งใจที่จะเดินทางอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นภายใน 12 เดือนข้างหน้า สะท้อนให้เห็นถึงกระแสการตื่นตัวที่ไม่ใช่เพียงเกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราว แต่ได้รับแรงสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากแคมเปญ “Plastic Free July” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ธุรกิจท่องเที่ยว และผู้ประกอบการท้องถิ่น

ภาครัฐ ธุรกิจท่องเที่ยว และผู้ประกอบการในท้องถิ่นในเวียดนาม ผนึกกำลังจัดแคมเปญ “Plastic Free July” ดันเวียดนามลดขยะพลาสติกทั่วประเทศ  
Photo Credit: https://www.recycleinme.com/scrap-news/newsdetails-365

หนึ่งในต้นแบบที่สะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ชัดเจนที่สุดคือฮอยอัน (Hoi An) เมืองมรดกโลกที่โดดเด่นด้านวัฒนธรรมเมือง ได้ผนวกแนวคิดเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้าไว้กับวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น และกลายเป็นปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายสีเขียว ตัวอย่างสำคัญคือเกาะจาม (Cham Islands) ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ชีวมณฑล (Biosphere Reserve) ของยูเนสโก ที่ได้ประกาศห้ามใช้ถุงพลาสติกโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ปี 2009 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่เร็วกว่าหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แนวคิด “การท่องเที่ยวที่มีเรื่องเล่าในประเด็นสิ่งแวดล้อม” ไม่เพียงช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังยกระดับมูลค่าเชิงวัฒนธรรมและสังคมของเมืองให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย เบื้องหลังความสำเร็จของแนวทางนี้ คือการเติบโตของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเวียดนาม ปี 2024 ตลาดบรรจุภัณฑ์กระดาษมีมูลค่าราว 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะขยายตัวเป็น 4.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2029 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 9.73% นอกจากนี้กลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลยังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะจากบริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่ตั้งเป้าใช้พลาสติกรีไซเคิล 50% ภายในปี 2030

บริษัทเวียดนามหลายแห่งได้นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้อย่างจริงจัง เช่น Duy Tan Plastic ที่ลงทุนเรื่องโรงงานรีไซเคิลระบบ Bottle-to-Bottle ซึ่งสามารถรีไซเคิลพลาสติกได้ถึง 100,000 ตันต่อปี หรือสตาร์ทอัปอย่าง Bquarius ที่ผลิตจานและชามจากใบหมาก และ Magix ที่พัฒนาอุปกรณ์สำนักงานจากวัสดุธรรมชาติอย่างแผ่นรังผึ้งกระดาษและกาวชีวภาพ ทางด้านภาคค้าปลีกก็มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค AEON Vietnam ถือเป็นรายแรก ๆ ที่เลิกใช้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้า พร้อมนำเสนอวัสดุทางเลือก เช่น ถุงจากชานอ้อย และแป้งข้าวโพด รวมถึงเปิดโครงการ “เช่าถุง” และระบบสะสมแต้มรีไซเคิลเพื่อจูงใจลูกค้า

ห้างค้าปลีกในเวียดนามหันมาใช้ถุงจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบบัว ชานอ้อย และแป้งข้าวโพด เพื่อลดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
Photo Credit: https://shopequo.com/blogs/blog/single-use-plastic-ban?srsltid=AfmBOorCK0pG8udBxFPoJuQa5ovAqrNpC6XrnBnyeJ0sXh4SO2owf9QS

Lotte Mart ก็มีนวัตกรรมที่น่าสนใจ เช่น ถุงที่ทำจากใบบัวซึ่งทนทาน ใช้ซ้ำได้ยาวนานถึง 1 ปี ช่วยลดขยะพลาสติกได้มากกว่า 500 ตัน จากการผลักดันเพียง 4 สาขาในโฮจิมินห์ซิตี้ ขณะที่ MM Mega Market หยุดแจกถุงพลาสติกตั้งแต่ปี 2019 และสามารถลดปริมาณถุงได้มากถึง 10 ล้านใบต่อปี อย่างไรก็ตาม เวียดนามยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายอยู่ไม่น้อย ข้อมูลของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เผยว่าภาคค้าปลีกของเวียดนามผลิตขยะพลาสติกกว่า 300,000 - 400,000 ตันต่อปี และอาจพุ่งสูงถึง 800,000 ตัน ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า หากไม่มีการแทรกแซงเชิงนโยบายที่เข้มงวด

สิ่งที่เกิดขึ้นในเวียดนาม เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการผสานนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมเข้ากับเศรษฐกิจหลักและพฤติกรรมของประชาชนได้อย่างแนบเนียน แนวคิด “ปลอดพลาสติก” ในที่นี้ จึงไม่ใช่เพียงการลดขยะ แต่คือการนำการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ การเล่าเรื่องที่ทรงพลัง และการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นมาแปรเปลี่ยนเป็นมูลค่าใหม่ นี่คือการเดินทางที่ไม่เพียงลดรอยเท้าคาร์บอน แต่ยังเพิ่มศักยภาพของชุมชน สร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความภูมิใจร่วมของสังคมในแนวทางที่ยั่งยืน