Research & Report

Wednesday Effect เมื่อซีรีส์ขยายจักรวาล สร้างรายได้-แฟนคลับ

“ซีรีส์ Wednesday จาก Netflix ไม่เพียงสร้างยอดผู้ชมถล่มทลาย แต่ยังใช้กลยุทธ์ Transmedia Storytelling ช่วยเปิดโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ขยายฐานแฟนคลับไปทั่วโลก”

Wednesday ซีรีส์ดังจาก Netflix เปิดตัวในปี 2022 ด้วยการนำเสนอความเป็นกอทิกในมุมมองใหม่ โดยมีทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) ผู้กำกับชื่อดังจาก Edward Scissorhands และ Beetlejuice มารับหน้าที่กำกับ ซีรีส์ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นหนึ่งในซีรีส์ภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Netflix ในหลายประเทศ

ซีรีส์ Wednesday ซีซันที่ 2 ยังได้รับกระแสตอบรับจากผู้ชมทั่วโลกดีเช่นเคย เรื่องราวตลกร้าย ความดาร์ก และความมืดมิดของตัวละคร ยังคงโดนใจกลุ่มผู้ชมทั้งเจนซีจนถึงเจนเอ็กซ์ 
Photo Credit: https://www.netflix.com/tudum/articles/wednesday-season-2-character-cast-guide

เรื่องราวดำเนินมาถึงซีซันที่ 2 ซึ่งยังคงติดตามชีวิตของเวนส์เดย์ แอดดัมส์ (Wednesday Addams) นักเรียนในโรงเรียนประหลาด Nevermore Academy ที่เต็มไปด้วยความลับและสิ่งที่ยากจะอธิบาย ซีรีส์ยังเพิ่มความน่าสนใจด้วยปริศนาการฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับตระกูลแอดดัมส์ ซึ่งตัวละครหลักต้องร่วมมือกันค้นหาความจริง เรื่องราวผสมผสานความตลกร้ายและความมืดมิดของตัวละครได้อย่างลงตัว พร้อมสะท้อนความรู้สึกของวัยรุ่นที่รู้สึกแปลกแยกจากสังคมและการมองโลกในแง่ลบ หลังจากที่ Netflix ปล่อย 4 ตอนแรกของซีซันที่ 2 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ก็มียอดผู้ชมรวมทะลุ 50 ล้านครั้งไปแล้ว

Photo Credit: https://www.youtube.com/watch?v=u45pzokhU04

ฐานแฟนคลับของซีรีส์ครอบคลุมตั้งแต่เจนซีไปจนถึงเจนเอ็กซ์ โดยเฉพาะกลุ่มที่เติบโตมากับการ์ตูน The Addams Family และภาพยนตร์ของทิม เบอร์ตัน แต่ซีรีส์ก็ยังสามารถดึงดูดผู้ชมใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสโลกของแอดดัมส์มาก่อนด้วยเช่นกัน ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ซีรีส์ประสบความสำเร็จคือการสร้างการมีส่วนร่วมจากแฟน ๆ ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะใน TikTok ซึ่ง #Wednesday มียอดโพสต์มากกว่า 3.5 ล้านโพสต์ในเวลาอันสั้น ทำให้ซีรีส์กลายเป็นกระแสแบบฉุดไม่อยู่ ตัวละครนำของเรื่องที่แสดงโดยเจนน่า ออร์เทกา (Jenna Ortega) มีส่วนสำคัญในการเพิ่มความนิยม โดยเธอมีผู้ติดตามกว่า 10 ล้านคนภายใน 10 วันหลังจากซีซันแรกเปิดตัว สไตล์และการแสดงของเธอช่วยสร้างความหลงใหลให้แฟนคลับทั่วโลก และทำให้การปรากฏตัวของเธอในสื่อกลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการเพิ่มฐานแฟน

ความสำเร็จของ Wednesday ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ยอดผู้ชมหรือกระแสออนไลน์เท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่โลกของสินค้าและประสบการณ์ที่จับต้องได้ Netflix ต่อยอดจักรวาลของซีรีส์ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่ม Kidult หรือผู้ใหญ่ที่ยังหลงใหลของสะสมและสิ่งของวัยเด็ก นอกจากนี้ ยังใช้พลังของ Cute Culture ผ่านตัวละครอย่างเอนิด (Enid) ที่สดใสและน่ารัก สร้างสินค้ารุ่นพิเศษมาเพิ่มเติม สำหรับแฟนตัวยงที่เติบโตมากับ The Addams Family และภาพยนตร์ของทิม เบอร์ตัน ก็ยังมีสินค้าที่ผลิตภายใต้แนวคิด Nostalgic Childhood ทั้งตุ๊กตา ฟิกเกอร์ และของสะสมที่ตีความใหม่เพื่อเรียกความทรงจำและสร้างความผูกพัน

เลโก้ตัวละครจากซีรีส์ Wednesday น่ารักตะมุตะมิแบบดาร์ก ๆ  
Photo Credit: https://www.youtube.com/watch?v=xfWZYlZeLlQ

การขยายผลจากซีรีส์ไม่ได้หยุดอยู่แค่ของสะสม Netflix ยังผลิต The Official Wednesday Cookbook ที่รวมสูตรอาหารจากเรื่องราว โดยปรับสไตล์ให้เข้ากับธีมกอทิกของจักรวาล Wednesday ในสหรัฐอเมริกา ซีรีส์ยังร่วมกับร้านฟาสต์ฟู้ด Wendy’s จัดทำแคมเปญ “Meal of Misfortune” เพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวให้แฟน ๆ ตัวอย่างเมนูสุดพิเศษ ได้แก่ Rest in 10-Piece Nuggets หรือ Raven’s Blood Frosty ซึ่งทุกเมนูสะท้อนอารมณ์ขันแบบดาร์ก ๆ ตามสไตล์ของเรื่อง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมออนไลน์อย่าง Nevermore Academy Admissions จากเว็บไซต์ www.nevermoreacademy.com ที่เปิดให้แฟน ๆ สมัครเข้าเรียนได้จริง แถมด้วยเพลย์ลิสต์บน Spotify ของซีซันสอง ที่ช่วยให้แฟน ๆ เชื่อมต่อกับจักรวาลของซีรีส์ได้ทั้งในโลกออนไลน์และชีวิตจริง ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า Netflix ไม่เพียงสร้างซีรีส์ แต่สร้าง “จักรวาล” ที่แฟนคลับสามารถมีส่วนร่วมและสัมผัสได้ในหลายมิติ

ตัวอย่างเมนูเค้กจาก The Official Wednesday Cookbook หนังสือรวมสูตรอาหารและขนมในธีมกอทิก ที่อินสไปร์มาจากซีรีส์ Wednesday
Photo Credit: https://www.amazon.com/Official-Wednesday-Cookbook-Woefully-Nevermore/dp/0593797884

ซีรีส์ยังร่วมกับร้านฟาสต์ฟู้ด Wendy’s จัดทำแคมเปญ “Meal of Misfortune” สร้างประสบการณ์เฉพาะตัวให้แฟน ๆ ด้วยเมนูที่ไม่เหมือนใคร
Photo Credit: https://www.franchisewire.com/wendys-debuts-wednesday-addams-meal-of-misfortune

Wednesday ถือเป็นตัวอย่างชัดเจนของกลยุทธ์ Netflix ในการต่อยอด IP สู่ช่องทางรายได้ใหม่ ๆ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิก (Subscription) แต่ยังสร้างโอกาสจากการขายสิทธิ์และการออกแบบประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับแฟน ๆ โดยตรง ในปี 2025 Netflix คาดว่าจะลงทุนด้านการพัฒนาเนื้อหาสูงถึง 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 11% การลงทุนเชิงคุณภาพนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับจักรวาลของซีรีส์ และเปิดโอกาสในการขยาย IP ไปสู่สินค้าและประสบการณ์ที่จับต้องได้ ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า การจัดการ IP ไม่ควรถูกมองว่าเป็นเพียง “ภารกิจภายหลัง” ที่ทำเพื่อการปกป้อง แต่ควรเป็น “กลยุทธ์ตั้งต้น” ที่วางรากฐานในการสร้างมูลค่าและรายได้ระยะยาว