ชวนมากระทำความหว่องที่ Mi Shang Prada Rong Zhai เมื่อ Prada จับมือ Wong Kar-Wai ออกแบบร้านอาหาร Stand Alone แห่งแรกในเอเชีย

ท่ามกลางนิยามของความหรูหราที่ขยายขอบเขตกว้างขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคจากทวีปเอเชีย แนวคิด “Slow Luxury” โดดเด่นขึ้นมาในฐานะความหรูหรารูปแบบใหม่ ที่ไม่เร่งรีบ แต่ให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์” ที่ค่อย ๆ ก่อตัวอย่างละเมียดละไม มากกว่าความพึงพอใจที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่
“...ต่างจากอดีตที่เพียงแค่การครอบครองสินค้าหรูหราก็ถือเป็นการแสดงฐานะได้แล้ว ผู้บริโภคมั่งคั่งในปัจจุบันกำลังมองหาจุดสัมผัสหรือประสบการณ์ที่ยากต่อการเลียนแบบ และสะท้อนสัญลักษณ์ใหม่ของความมั่งคั่ง เช่น ความรอบรู้ทางวัฒนธรรม สุขภาพ และการมีชีวิตยืนยาว” ข้อมูลจากบริษัทวิจัยเทรนด์ระดับโลก WGSN อธิบายความหมายของความหรูหรา Slow Luxury
ในโลกที่ความหรูหราถูกตีความใหม่ แบรนด์หรูที่ต้องการรักษาความเกี่ยวข้องทางวัฒนธรรมและความมีชื่อเสียง จึงต้องปรับตัวไปสู่การสร้าง “ประสบการณ์เหนือเงิน” (Beyond Monetary Luxury) ที่ช่วยเติมเต็มทั้งทุนทางสังคมและทุนทางวัฒนธรรมของผู้บริโภค
กลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยเปลี่ยน “ประสบการณ์” ให้กลายเป็น “สกุลแห่งคุณค่า” เหนือตัวเงิน ก็คือการพาผู้บริโภคเข้าไปอยู่ในโลกของแบรนด์ และทำให้ผู้บริโภคกลายเป็น “ตัวละครหลัก” ของเรื่อง แทนที่จะเป็นเพียงผู้ชมเพียงเท่านั้น

Photo Credit: https://www.prada.com/th/en/pradasphere/special-projects/2025/mi-shang-prada-rong-zhai.html
Prada เชื้อเชิญผู้มาเยือนให้กลายเป็น “จางม่านอวี้” (Maggie Chang) หรือ “เหลียงเฉาเหว่ย” (Tony Leung Chiu-wai) ผ่านประสบการณ์ดื่มด่ำทางอาหารที่ร้าน Mi Shang Prada Rong Zhai ร้านอาหารแห่งแรกในเอเชียของแบรนด์แฟชันจากอิตาลีที่ร่วมมือกับผู้กำกับชาวฮ่องกงขวัญใจคนเหงาอย่าง หว่องกาไว (Wong Kar-Wai)
ร้านอาหารแห่งนี้ตั้งอยู่ในคฤหาสน์ Rong Zhai อันทรงคุณค่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1918 ซึ่งแบรนด์บูรณะขึ้นใหม่ให้เป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมแบบมัลติฟังก์ชันในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
“Mi Shang Prada Rong Zhai ออกแบบให้ผู้มาเยือนเดินทางผ่านห้องต่าง ๆ ที่ยังคงกลิ่นอายดั้งเดิม ผสมผสานงานศิลปะคัดสรร เฟอร์นิเจอร์โบราณ และเสน่ห์ของมิลาน-เซี่ยงไฮ้ไว้อย่างกลมกลืน วิสัยทัศน์ของ Prada ผสานกับสไตล์ภาพยนตร์อันเป็นเอกลักษณ์ของหว่องกาไว ที่ชวนให้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง In the Mood for Love (2000) ตกแต่งด้วยงานไม้แกะสลักแบบดั้งเดิมจากชุด Rising Clouds, Blooming Flowers สร้างโดย Duo Yun Xuan Art Center” อ้างอิงข้อมูลบนเว็บไซต์ Prada
แรงบันดาลใจของร้านมาจากแสตมป์คู่ที่เรียกว่า “Tête-bêche” ซึ่งดวงหนึ่งพิมพ์ตรง อีกดวงหนึ่งกลับหัว สะท้อนการผสมผสานสถาปัตยกรรมตะวันตกและเฟอร์นิเจอร์จีนโบราณ อีกทั้งยังเข้ากันดีกับการตกแต่งที่ขับเน้นแสงและเงา เต็มไปด้วยกระจกและมุมมองสะท้อนกลับ สร้างบรรยากาศลวงตาและเย้ายวนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของผู้กำกับชาวฮ่องกงที่โลกรู้จักเป็นอย่างดี
“แนวคิดเรื่องการสะท้อน การอยู่ใกล้กัน และความสัมพันธ์ บอกเป็นนัยถึงจุดตัดของสองวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ เชื่อมมิลานและเซี่ยงไฮ้ในการสนทนาผ่านภาพที่ทั้งซับซ้อนและไม่เหมือนใคร” Prada กล่าวในแถลงการณ์ความร่วมมือ

Photo Credit: https://www.prada.com/th/en/pradasphere/special-projects/2025/mi-shang-prada-rong-zhai.html
นอกเหนือจากคาเฟ่และร้านอาหารระดับไฟน์ไดนิ่งแล้ว Mi Shang Prada Rong Zhai ยังทำหน้าที่เป็น “ซาลอนทางวัฒนธรรม” (Culture Salon) ที่จัดนิทรรศการศิลปะและกิจกรรมพิเศษเป็นประจำทุกครึ่งปี เพื่อเชื่อมโยงผู้คนผ่านบทสนทนาแห่งศิลปะ แฟชั่น และวัฒนธรรมร่วมสมัย
ข้อมูลจากรายงานล่าสุดของ Trip.com พบว่า 44% ของนักท่องเที่ยวเลทือกจุดหมายปลายทางจากประสบการณ์ด้านอาหาร และ Mi Shang Prada Rong Zhai คือการตอบสนองต่อกระแสดังกล่าวในการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายเพื่อแลกประสบการณ์ เพิ่มเติมด้วยเสน่ห์ที่ทั่วโลกหลงใหล ผสานกลิ่นอายความเหงาแบบหว่องกาไวเข้ากับพลังของเศรษฐกิจอย่างแยบยล ดังชื่อของร้าน “Mi Shang” ซึ่งแปลว่า “ความหลงใหล” หรือ “การหมกมุ่นอยู่กับบางสิ่ง” ซึ่งสะท้อนได้ทั้งอารมณ์ในภาพยนตร์ และกลยุทธ์ทางแบรนด์ที่เข้าใจ “หัวใจของมนุษย์” อย่างลึกซึ้ง
ที่มา:
เว็บไซต์ “prada.com”
บทความ “Prada and Wong Kar-wai dream up a cinematic restaurant in Shanghai” โดย Sofia de la Cruz
บทความ “EXCLUSIVE: Prada to Launch First Stand-alone Dining Space at Rong Zhai Shanghai” โดย Denni Hu
บทความ “Lifestyle Strategy APAC: Slow Luxury” โดย Alison Ho
บทความ “Inside the sexy Mi Shang Prada Rong Zhai restaurant by Wong Kar Wai in Shanghai” โดย Ambrose Leung
รายงาน “Trip.com Group’s MOMENTUM 2025 REPORT” จาก Trip.com
เรื่อง: คณิศร สันติไชยกุล
TAGS: #Creative Economy Update