News Update

08.08.2568

CEA ขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ 2568 ดันเมืองรองใช้ทุนวัฒนธรรมสร้างโอกาสใหม่ คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 4,382 ล้านบาท และพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ 17 จังหวัดทั่วประเทศ

เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคที่ “ความคิดสร้างสรรค์” และ “ทุนวัฒนธรรม” กลายเป็นทรัพยากรสำคัญทางเศรษฐกิจ ทำให้เมืองต่าง ๆ หันมาใช้จุดแข็งทางด้านวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น เป็นเครื่องมือสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทั้งอาชีพ รายได้ และยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์เมืองให้มีความสามารถทางการแข่งขันในระดับโลก ด้วยความสำคัญนี้ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ได้ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่อย่างเข้มข้น ผ่านการจัดเทศกาลสร้างสรรค์และการขับเคลื่อนเครือข่ายย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประเทศไทย หรือ Thailand Creative District Network (TCDN) พร้อมพัฒนา “คน” ให้เป็นกลไกสำคัญของการเปลี่ยนแปลง ผ่านการบ่มเพาะหลักสูตรพัฒนาเมืองและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผสานทุนวัฒนธรรมเข้ากับนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งหมดนี้เพื่อยกระดับพลังสร้างสรรค์ระดับท้องถิ่นให้เป็นพลังทางเศรษฐกิจทั้งในมิติของผู้คน ธุรกิจ และพื้นที่ ผลักดันให้ทุกเมืองมีโอกาสเติบโต และทุกชุมชนสามารถเป็นเจ้าของ “แบรนด์เมือง” ได้จากรากฐานของตนเอง CEA คาดว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ในปี 2568 มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 4,382 ล้านบาท และพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ไม่น้อยกว่า 17 จังหวัดทั่วประเทศ      
     
เปิดกลยุทธ์ CEA กับการเชื่อมเมืองหลัก เมืองรอง ให้กลายเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์

CEA ในฐานะหน่วยงานหลักที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และสนับสนุนผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดสากล ได้เล็งเห็นศักยภาพการพัฒนาเชิงพื้นที่ผ่านทุนวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมชุมชน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน CEA ใช้ยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่เป็นแนวทางหลักในการขับเคลื่อน โดยสนับสนุนย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Districts) ในพื้นที่ที่เล็กที่สุด พลิกฟื้นย่านที่มีเอกลักษณ์ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งด้านธุรกิจสร้างสรรค์ สร้างอัตลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละพื้นที่ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ โดยมีโครงการ ดังนี้ 

  • เทศกาลสร้างสรรค์นานาชาติประจำภูมิภาค (International Creative Festival) แพลตฟอร์มนำเสนอศักยภาพของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และนักสร้างสรรค์ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประจำภูมิภาค โดยผสานทุนวัฒนธรรมของแต่ละจังหวัดเข้ากับพลังสร้างสรรค์ของคนในพื้นที่ นำไปสู่การพัฒนาพื้นที่และย่านในหลายมิติ ตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงเมือง ปัจจุบัน CEA จัดเทศกาลงานออกแบบประจำปีใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ได้แก่ เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ (Bangkok Design Week) เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ (Chiang Mai Design Week) เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ (Isan Creative Festival) และเทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ (Pakk Taii Design Week) ซึ่งทุกเทศกาลล้วนเป็นเครื่องมือสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ โดยเพิ่มโอกาสทางการท่องเที่ยว การลงทุน และต่อยอดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับปี 2568 มูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการจัดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ (Bangkok Design Week) และเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ (Isan Creative Festival) มีมูลค่าสูงถึง 2,913.2 ล้านบาท และคาดว่าการจัดเทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ (Pakk Taii Design Week) ในระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม - 7 กันยายน 2568 และเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ (Chiang Mai Design Week) ในระหว่างวันที่ 6 - 14 ธันวาคม 2568 จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1,469.2 ล้านบาท 
  • กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมผู้ขับเคลื่อนการพัฒนาย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Train the Maker) ภายใต้เครือข่ายย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประเทศไทย (TCDN) หลักสูตรลงพื้นที่จัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในแต่ละจังหวัด เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ขับเคลื่อนในพื้นที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเรียนรู้แนวทางการนำทุนวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นมาต่อยอด โดยการลงมือปฏิบัติจริงจะช่วยเสริมทักษะ สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พร้อมพัฒนาจังหวัดในภูมิภาคของตนไปสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ในอนาคต ปีนี้ CEA มุ่งเน้นพัฒนา 8 จังหวัดเป้าหมายภายใต้เครือข่าย TCDN ได้แก่ ปัตตานี, แพร่, ภูเก็ต, จันทบุรี, อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, สุรินทร์ และนครราชสีมา ซึ่ง CEA ได้ลงพื้นที่จัดฝึกอบรมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งสิ้น 5 จังหวัด โดยจังหวัดถัดไปที่จะมีการลงพื้นที่จัดหลักสูตรพัฒนา ได้แก่ พิษณุโลก และสุรินทร์ ในช่วงเดือนสิงหาคม 2568 และนครราชสีมา ในช่วงเดือนกันยายน 2568   

ผลลัพธ์เมืองสร้างสรรค์ไทย เมื่ออัตลักษณ์ท้องถิ่นสร้างโอกาสใหม่ให้เมืองรอง

ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เผยว่าปัจจุบันเครือข่าย TCDN ที่ดำเนินการโดย CEA มีสมาชิกเครือข่ายสะสมจำนวน 34 จังหวัดทั่วประเทศ และได้สร้างผลลัพธ์เชิงบวกในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยการการขับเคลื่อนกิจกรรมร่วมกับเครือข่ายท้องถิ่นที่หลากหลาย ทั้งในมิติการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การยกระดับผลิตภัณฑ์ การใช้พื้นที่สร้างโอกาสทางธุรกิจและวัฒนธรรม รวมถึงการออกแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับบริบทชุมชน เช่น งานซาวสีเกด 2567 (Sound of Sisaket 2024) เทศกาลศิลปะและดนตรีที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนและศิลปินท้องถิ่นได้แสดงศักยภาพ เพิ่มโอกาสในการพัฒนาเมืองศรีสะเกษให้เป็นเมืองแห่งดนตรีและศิลปะ เทศกาลปัตตานีดีโคตร 2567 (Pattani Decoded 2024) ที่เน้นการสื่อสารภาพลักษณ์ของเมืองปัตตานีด้วยเครื่องแต่งกายอันมีเอกลักษณ์ สะท้อนการเป็นศูนย์รวมของความหลากหลายทางเชื้อชาติจนกลายเป็นเมืองพหุวัฒนธรรมที่สำคัญ เปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ได้ออกแบบและจัดแสดงผลงานเพื่อต่อยอดสู่การสรรสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ นอกจากนี้ ยังมี กิจกรรมออกแบบเส้นทางและการใช้พื้นที่สาธารณะในจังหวัดลำพูน เพื่อรองรับการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ของจังหวัดลำพูน เพื่อต่อยอดให้เกิดพื้นที่ที่เชื่อมโยงผู้คนกับธุรกิจสร้างสรรค์ในย่าน ซึ่งไม่เพียงสร้างพื้นที่พบปะของนักสร้างสรรค์ในระดับพื้นที่ ย่าน และเมือง แต่ยังส่งผลให้เกิดเครือข่ายในระดับประเทศและสากล อันนำไปสู่การฟื้นฟูเมือง การพัฒนาคน และการต่อยอดสู่โอกาสทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

จากเรื่องเล่าสู่แบรนด์เมือง “ทิศทางใหม่ของเมืองสร้างสรรค์ไทย” ในระดับนานาชาติ

การพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ในระดับนานาชาติมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเมืองสร้างสรรค์สามารถทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม การจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ผนึกกำลังผู้คนที่มีทักษะสร้างสรรค์และหน่วยงานต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ช่วยกระตุ้นการต่อยอดทุนวัฒนธรรมสู่การสร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ไทยสู่เวทีโลก CEA จึงผลักดันกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเปิดประตูเมืองสร้างสรรค์ไทยสู่เครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์โลก พร้อมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคมอย่างยั่งยืนในระดับนานาชาติ ดังนี้ 

  • เครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network: UCCN) ปี 2568 CEA ส่งเสริมและสนับสนุนเมืองสร้างสรรค์ไทยให้มีบทบาทในเครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโกจำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี ในฐานะเมืองสร้างสรรค์ ด้านอาหาร และจังหวัดศรีสะเกษ ที่อยู่ระหว่างกระบวนการสมัครเพื่อรับรองการเป็นเมืองสร้างสรรค์ ด้านดนตรี สำหรับจังหวัดเพชรบุรี หลังได้รับการรับรองในฐานะสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก ในปี 2564 ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมในเครือข่ายสมาชิก UCCN เช่น กิจกรรม Cooking and Storytelling Competition: การประกวดรสเพ็ดรีประจำบ้าน จังหวัดเพชรบุรี ส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารและซอฟต์พาวเวอร์ไทย กิจกรรมการประกวดนี้ผสมผสานอาหารท้องถิ่นเข้ากับเรื่องเล่าชุมชน ทั้งยังช่วยขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย โดยใช้อาหารเป็นสื่อในการสร้างแบรนด์อาหารท้องถิ่นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และเปิดโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่โดยตรง ทางด้านจังหวัดศรีสะเกษ กำลังอยู่ในขั้นตอนการเสนอเมืองเข้าร่วมเครือข่ายสมาชิก UCCN โดย CEA ได้สนับสนุนด้วยการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อต่อยอดศักยภาพการเป็นเมืองสร้างสรรค์ ด้านดนตรี เช่น เทศกาลดนตรีซาวสีเกด (Sound of Sisaket) ซึ่งโดดเด่นด้วยการผสมผสานเสียงดนตรีพื้นบ้านเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ ก่อให้เกิดเวทีสำหรับศิลปินท้องถิ่นได้แสดงศักยภาพ สร้างปรากฏการณ์อุตสาหกรรมดนตรีอินดี้อีสานฟีเวอร์ ขยายตลาดดนตรีสร้างสรรค์ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเชื่อมโยงอุตสาหกรรมภาพยนตร์และศิลปะ เพื่อหลอมรวมจิตวิญญาณและความมุ่งมั่นของชาวศรีสะเกษ โดยเทศกาลนี้ยังเป็นผู้ชนะจากโครงการ “อวดเมือง 2568 The Pitching” ที่พร้อมเดินหน้าในฐานะจังหวัดนำร่องเทศกาลต้นแบบระดับประเทศ การขับเคลื่อนที่กล่าวมานี้ช่วยส่งเสริมเมืองสร้างสรรค์ไทยให้เป็นที่รู้จักและโดดเด่นในเวทีโลก เปิดโอกาสทางธุรกิจและการลงทุน พร้อมสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างเมืองสมาชิกของ UCCN ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ยั่งยืน และครอบคลุมทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
  • กิจกรรมพัฒนาผู้ขับเคลื่อนเทศกาลสร้างสรรค์ (Festival Creator 2025) CEA ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA) และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล สนับสนุนการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ให้เป็นอีกหนึ่งกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้ขับเคลื่อนเทศกาลสร้างสรรค์ (Festival Creator 2025) มุ่งให้เกิดกระบวนการแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดองค์ความรู้ พร้อมทั้งประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญไปสู่บุคลากรและทีมงานในระดับชุมชน ย่าน และเมืองทั่วประเทศ กิจกรรมนี้ครอบคลุมตั้งแต่การเสริมองค์ความรู้ด้านแนวคิด เทรนด์ธุรกิจงานเฟสติวัล การสร้างสรรค์เนื้อหา และการบริหารจัดการเทศกาลให้ได้มาตรฐานระดับมืออาชีพ และยังประโยชน์ต่อชุมชนในระยะยาว โดยปีนี้มีการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ต้นแบบใน 5 จังหวัด ได้แก่ 1. Columbo Creative Community Festival ที่จังหวัดขอนแก่น 2. เทศกาลเลยอาร์ตเฟส ที่จังหวัดเลย 3. เทศกาล Udon City Fest ที่จังหวัดอุดรธานี 4. เทศกาลฉาดเฟสติวัล จังหวัดพัทลุง ในวันที่ 22 - 24 สิงหาคม และ 5. เทศกาลมา หา เสน่ห์ จังหวัดสงขลา ในวันที่ 28 สิงหาคม - 7 กันยายน จุดเด่นของกิจกรรม Festival Creator 2025 คือการสร้างพลังและอัตลักษณ์ให้กับพื้นที่ ด้วยการจัดเทศกาลที่ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมระยะสั้น แต่ยังต่อยอดแรงบันดาลใจสู่การจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ในระยะยาว เกิดแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงผู้คนจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เยาวชน และเครือข่ายในชุมชน ให้มีพื้นที่แลกเปลี่ยน ส่งเสริม และฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อนำกิจกรรมสร้างสรรค์เหล่านั้นไปต่อยอดเป็นนิเวศเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของเมืองในระยะยาว

CEA ยังคงเดินหน้าสร้างระบบนิเวศสร้างสรรค์ในระดับพื้นที่ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เพียงพัฒนาพื้นที่ในเมืองใหญ่ แต่รวมถึงในเมืองรอง และชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้ทุกพื้นที่มีโอกาสเติบโตบนฐานของวัฒนธรรมอันเข้มแข็งอย่างยั่งยืน พร้อมต่อยอดแนวคิดเมืองสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นจริงในทุกภูมิภาคของประเทศ ด้วยการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชน ภายใต้เป้าหมายในการยกระดับเศรษฐกิจด้วยความคิดสร้างสรรค์ ให้กลายเป็นต้นทุนที่สามารถแข่งขันในระดับโลกได้อย่างภาคภูมิ

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานพัฒนาและขับเคลื่อนพื้นที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้ที่เว็บไซต์ creativecity.cea.or.th

Posted in news on Aug 08, 2025